วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคืออะไร
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change คือการที่อุณหภูมิและสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระยะยาว โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ทั้งนี้ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเองก็สัมพันธ์กับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือการนำขยะไปฝังกลบ จนทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนจำนวนมาก
ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนนั้น เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจกเลยทีเดียว ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย, แผ่นดินไหว, สึนามิ หรือพายุหมุนเขตร้อน เป็นต้น
*ที่มา: https://thailand.un.org/th/173511-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีสาเหตุการเกิดมาจากอะไรบ้าง
ถึงแม้ว่าปกติแล้วการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ทว่าในภายหลัง การที่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นจนเป็นอย่างในปัจจุบันนี้มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกันดังต่อไปนี้*
- การนำขยะไปฝังกลบใต้ดิน การนำขยะปริมาณมากไปทำลายโดยการขุดหลุมเพื่อฝังกลบไว้ใต้ดินนั้นจะทำให้เกิดก๊าซมีเทนขึ้น
- การเผาไหม้ของน้ำมันในรถยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซต่าง ๆ ที่มีการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์นั้น เมื่อผ่านกระบวนการเผาไหม้แล้วจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- การถางและทำลายป่าไม้ ต้นไม้คือสิ่งที่จะคอยช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้นเมื่อผู้คนหันมาทำลายหรือถางป่าไม้เพื่อใช้ที่ดิน จึงเปรียบเสมือนทำลายเครื่องฟอกอากาศของโลก จนไม่มีสิ่งที่คอยช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในระดับที่สมดุลนั่นเอง
- การเผาไหม้ของถ่านหิน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าหรือการสร้างความอบอุ่นในบางพื้นที่ก็ยังคงมีการนำถ่านหินมาเผาไหม้ ซึ่งกระบวนการเผาไหม้ของถ่านหินนั้นจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้น
*ที่มา: https://thailand.un.org/th/174652-สาเหตุและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบทั่วโลกในด้านใดบ้าง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) สามารถสร้างผลกระทบได้เป็นวงกว้าง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความสัมพันธ์เป็นลูกโซ่คล้องกันกับทุก ๆ สิ่งบนโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต ทรัพยากรอาหาร หรือการเกิดภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ โดย*ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ด้านหลัก ๆ ดังนี้
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม โดยผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมได้มีดังต่อไปนี้
- อุณหภูมิบนผิวโลกเพิ่มสูงขึ้น ก๊าซเรือนกระจกคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้น ซึ่งเมื่อความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกมีมากขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลให้อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
- น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแค่ทำให้อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุณหภูมิของน้ำทะเลด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นก็จะส่งผลให้น้ำแข็งละลายจนระดับน้ำทะเลสูงขึ้นตามไปด้วย
- วิกฤตภัยแล้งที่แผ่ขยายในหลายพื้นที่ อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นตามสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงสามารถทำให้เกิดภัยแล้งเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค และสำหรับบางภูมิภาคอาจเกิดภัยแล้งที่มีความรุนแรงมากกว่าปกติ
- ลมพายุมีความรุนแรงมากขึ้น ความรุนแรงของพายุเองก็สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเช่นเดียวกัน เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นของพื้นผิวโลกและน้ำทะเล จะส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงทำให้ความถี่ในการเกิดพายุมีมากขึ้นด้วยนั่นเอง
- ทรัพยากรน้ำและอาหารหายากขึ้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมากต่อทรัพยากรน้ำ และอาหารของทุกชีวิตบนโลก เพราะไม่ว่าจะเป็นพืชผลต่าง ๆ จากการเพาะปลูก ปริมาณสัตว์น้ำในทะเล หรือพืชพรรณที่เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า ล้วนแต่ลดปริมาณลงเมื่อได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
- จำนวนสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์มีมากขึ้น เมื่อเกิดสภาวะขาดแคลนอาหารหรือสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปจนสิ่งมีชีวิตบางสายพันธุ์ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้
ผลกระทบต่อสุขภาพ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเราด้วยเช่นกัน โดยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพได้มีดังต่อไปนี้
- การแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ รุนแรงมากขึ้น สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โรคต่าง ๆ มีการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
- โรคติดต่ออุบัติใหม่ เมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาจส่งผลให้มีโรคติดต่อชนิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้
- ภาวะขาดสารอาหาร ภาวะขาดสารอาหารเป็นผลกระทบต่อสุขภาพที่จะเกิดขึ้นเมื่อทรัพยากรน้ำ และอาหารหายากขึ้นหรือขาดแคลนอาหารจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ร่างกายช็อกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาโลกร้อนสร้างผลกระทบต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก และทำให้เกิดอาการฮีทสโตกหรือภาวะร่างกายช็อกจากความร้อน ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นฐานเดิม เพื่อหนีความร้อนในพื้นที่ถิ่นเดิม
*ที่มา: https://thailand.un.org/th/174652-สาเหตุและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควรมีวิธีการป้องกันอย่างไร
แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปค่อนข้างมากแล้ว แต่เพื่อชะลอไม่ให้ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคต
โดยวิธีป้องกันหรือชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทุก ๆ คนสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น เปลี่ยนจากการนำเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเผาไหม้เพื่อสร้างแหล่งพลังงาน เป็นการนำพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์มาสร้างแหล่งพลังงานแทน
ที่มา: https://thailand.un.org/th/173511-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการพลัดถิ่น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพลัดถิ่นมีความเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ และคนไร้รัฐไร้สัญชาติ เป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ต้องเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง วิกฤตทางธรรมชาติหลายครั้งและส่วนมากเกิดอย่างกระทันหันและเป็นวิกฤตที่ทับซ้อนวิกฤต ผู้คนถูกคุกคามด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้น ความยากจนสูงขึ้น ผู้คนอดอยาก ขาดแคลน สูญเสียวิถีชีวิตที่เคยมี ความสงบระหว่างชุมชนที่เคยมีเกิดความตึงเครียดและท้ายที่สุดส่งผลให้มีการถูกบังคับให้พลัดถิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในประเทศส่วนใหญ่มาจากประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศสูง ซึ่งสภาพอากาศที่แปรปรวนและเลวร้ายลงยังเพิ่มความท้าทายต่อการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและการเดินทางกลับอย่างปลอดภัยนั้นเกิดได้ยากมากขึ้น
ดังนั้นหากไม่มีความช่วยเหลือในการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน รับมือ และฟื้นตัวจากผลกระทบจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ พวกเขาอาจจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้พลัดถิ่นอีกครั้ง
การทำงานของ UNHCR ท่ามกลางวิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพลัดถิ่น
- ทำงานเพื่อสร้างความเข้าใจถึงสิทธิการคุ้มครองระหว่างประเทศ และเพิ่มความสามารถต่อการตอบสนองในวิกฤตผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่นที่อาจต้องพลัดถิ่นหรือลี้ภัยซ้ำจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ให้ความช่วยเหลือ โดยการมอบความคุ้มครองและสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่น รวมถึงคนในชุมชนให้สามารถฟื้นฟูหลังต้องเผชิญภัยพิบัติจาก climate change
- สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น รวมถึงคนในพื้นที่ในการฟื้นฟูรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน และช่วยให้พวกเขาเข้าถึงความช่วยเหลือและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็น เช่น ความช่วยเหลือด้านที่พักพิง สุขอนามัย การศึกษา
- มอบความช่วยเหลือด้านการเงิน เพื่อให้ผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นสามารถใช้จ่ายตามความต้องการที่จำเป็นที่แตกต่างกันของแต่ละครอบครัว
- ให้ความรู้ ฝึกอบรมให้เพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือกับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ฝึกอบรมอาสาสมัครเพื่อตอบสนองเมื่อเกิดเหตุ ฝึกซ้อมตามมาตรการ เสริมสร้างความแข็งแรงของที่พักพิงให้ทนทานต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย รวมไปถึงหาทางป้องกัน และการปรับตัวอย่างยั่งยืน
*ที่มา : https://www.unhcr.org/what-we-do/build-better-futures/climate-change-and-displacement
บริจาคช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นและผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่าน UNHCR
ในปัจจุบันสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่ส่งผลต่อชีวิตนับล้านรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้าย หรือภัยพิบัติที่เป็นผลมาจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น
ความขัดแย้งที่ยาวนานทำให้สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางต้องเผชิญกับความยากลำบากในทุก ๆ ด้าน ไม่มีที่พักพิง ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำสะอาด เข้าถึง บริการขั้นพื้นฐานหรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างจำกัด วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและทำให้ผู้พลัดถิ่นพึ่งพาตนเองได้ยากขึ้น ผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศอาจจะเพิ่มความตึงเครียดและเกิดความขัดแย้งในเรื่องทรัพยากรที่สำคัญ เช่น น้ำ เชื้อเพลิง และพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งทำให้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประชากรผู้พลัดถิ่นและชุมชนเจ้าบ้านมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น
การบริจาคของคุณสามารถช่วยให้พวกเขาฟื้นฟูจากความสูญเสีย มอบที่พักพิงที่ปลอดภัย อาหาร น้ำสะอาด ปัจจัยสี่และเป็นความหวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยสนับสนุนการช่วยเหลือพวกเขาและสนับสนุนการทำงานของ UNHCR
ขั้นตอนการรับบริจาคของ UNHCR สำหรับช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลีัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- เข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ของ UNHCR และกดเข้าไปที่หน้าบริจาค
- กดเลือกประเภทการบริจาคและระบุจำนวนเงินที่ต้องการบริจาค
- กรอกข้อมูลผู้บริจาคให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากทาง UNHCR จะรายงานการทำงานและอัปเดตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นให้ผู้บริจาคทราบอย่างต่อเนื่อง
- เลือกบริจาคผ่านช่องทางการชำระเงินที่สะดวกและได้เลือกเอาไว้
ช่องทางการบริจาคเงินสนับสนุนผ่าน UNHCR
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับ UNHCR สามารถเลือกช่องทางการบริจาคเงินได้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคออนไลน์หรือบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคาร
Donate Online
การบริจาคเงินออนไลน์สำหรับการช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศผ่านทางเว็บไซต์จะสามารถเข้าร่วมบริจาคเงินได้ทางหน้าเว็บไซต์ของ UNHCR
บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร
การบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารจะสามารถเลือกบริจาคเข้าบัญชีธนาคารของ UNHCR ได้ทั้งหมด 5 ธนาคารด้วยกัน ในชื่อบัญชีเดียวกัน คือ UNHCR Special Account
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เลขที่บัญชี : 004-2-25859-6
- ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เลขที่บัญชี : 030-2-88804-3
- ธนาคารกรุงไทย (KTB) เลขที่บัญชี : 167-0-19574-0
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (iBank) เลขที่บัญชี : 008-1-36212-9
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เลขที่บัญชี : 004-2-25859-6
สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @UNHCRThailand หรือทางอีเมล [email protected]
ประเภทการบริจาคผ่านเว็บไซต์ของ UNHCR
การบริจาคเงินเพื่อให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ จะมีรูปแบบการบริจาคแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
- บริจาครายครั้ง
เพื่อมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนฉุกเฉินแบบครั้งเดียว - บริจาครายเดือน
เพื่อมอบความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนสนับสนุนการมอบความช่วยเหลือที่ยั่งยืนในระยะยาว เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ หรือพลัดถิ่นซ้ำจากภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างผลกระทบมากกว่าที่คุณคิด
วันนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตสภาพอากาศที่แปรปรวน ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เป็นผลมาจาก climate change ยังทำให้ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นและอาจนำไปสู่การพลัดถิ่นซ้ำ
ความขาดแคลนด้านน้ำสะอาด และอาหาร จากภัยแล้ง ฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาลนำมาสู่ภาวะขาดแคลนมีเด็กขาดสารอาหารจำนวนมาก ทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งตึงเครียด เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสันติภาพ กลุ่มที่เปราะบางตกอยู่ในความเสี่ยงจากอาการป่วย หรือติดโรคระบาดที่สามารถป้องกันได้ ที่สำคัญผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผู้คนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น UNHCR ทำงานอยู่ในพื้นที่ มอบความคุ้มครองและช่วยชีวิต สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างความสามารถในการฟื้นตัวในปัจจุบันและอนาคต ในขณะเดียวกันเรายังพัฒนาการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ด้าน เรายังต้องการความช่วยเหลืออีกมากเพื่อช่วยชีวิตในวิกฤตใหญ่ของโลกนี้ การบริจาคจากคุณวันนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการช่วยชีวิตครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ
See also
สึนามิ ภัยพิบัติใหญ่ที่สร้างความสูญเสียและความเสียหายมหาศาล การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกสามารถสร้างมหันตภัยครั้งใหญ่ ผู้คนจำนวนมากต้องหนีและพลัดถิ่นเพื่อเอาชีวิต
พายุหมุนเขตร้อน (Tropical cyclones) หรือไซโคลน ภัยธรรมชาติที่ก่อตัวบริเวณเหนือผิวน้ำทะเลในพื้นที่เขตร้อน และยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อโลกเผชิญกับ Climate change
วิกฤตภัยแล้งรุนแรง ภัยธรรมชาติที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการพลัดถิ่น ความขาดแคลนทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องลี้ภัยจากบ้านเกิดเพื่อแสวงหาน้ำสะอาด และอาหาร
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ทำความรู้จักว่าภัยพิบัติธรรมชาติสามารถทำให้เกิดการพลัดถิ่นและลี้ภัยของผู้คนนับล้านได้อย่างไร?