เติร์กเมนิสถานมอบสัญชาติให้กับบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 2,580 คน ซึ่งเป็นการทำงานที่สอดคล้องกับคำสั่งประธานาธิบดีที่มีผลบังคับใช้ในเดือนนี้เช่นกัน นับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในดินแดนแห่งนี้
หกสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากคำสั่งนี้คือ สตรีที่ไร้รัฐไร้สัญชาติจาก 19 กลุ่มชาติพันธุ์ UNHCR ชื่นชมการทำงานนี้ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าล่าสุดในประเทศแถบเอเชียกลางในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ
ช่วงเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศเติร์กเมนิสถานได้มอบสัญชาติให้กับผู้ลี้ภัยและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 26,000 คน ในจำนวนนี้รวมถึงบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 13,000 คนที่ได้รับการแปลงสัญชาติในปี ค.ศ. 2011 เมื่อเติร์กเมนิสถานเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานะของบุคคลไร้รัฐ ค.ศ. 1954
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เติร์กเมนิสถานได้ผ่านกฎหมายฉบับใหม่คือ พระราชบัญญัติสถานะพลเมือง ซึ่งช่วยในการป้องกันการเกิดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในเด็ก โดยให้เด็กทุกคนที่เกิดในประเทศ รวมถึงเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่มีเอกสารระบุตัวตน ได้รับการจดทะเบียนการเกิด ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่นี้และมติในการแก้ไขปัญหาให้กับกรณีไร้รัฐไร้สัญชาติที่มีอยู่นั้นเป็นการดำเนินงานอันสืบเนื่องมาจากคำมั่นที่ประเทศเติร์กเมนิสถานได้ให้ไว้ ณ ที่ประชุมระดับสูงว่าด้วยภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ที่ UNHCR จัดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2019
ภายใต้กรอบการทำงานของโครงการ #IBelong เพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ค.ศ. 2024 UNHCR จะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลเติร์กเมนิสถานในการป้องกันและแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ
มิสเตอร์ฮันส์ ฟริดดริก ชูดเดอร์ ผู้แทน UNHCR ประจำเอเชียกลาง กล่าวว่า “เติร์กเมนิสถานได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นประเทศแนวหน้าอีกครั้งในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ยุติความไร้ตัวตนของผู้คนนับพัน เรามั่นใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินงานนี้จะแก้ไขปัญหา และรวมเอาบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติแต่ละคนและทุกคนไว้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศภายในปี ค.ศ. 2024”
ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านคนทั่วโลก ในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานดังเช่นพลเมืองทั่วไป จากรายงานสถิติพบว่า มีบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 4.2 ล้านคนใน 79 ประเทศ อย่างไรก็ตาม UNHCR ประมาณการว่าจำนวนบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติที่แท้จริงนั้นมีมากกว่านั้นอีกมาก
Share on Facebook Share on Twitter