สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ยังคงลงทะเบียนผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาถึงใหม่บริเวณชายแดนประเทศซูดานและเอธิโอเปียอย่างต่อเนื่อง ผู้คนกว่า 800 คน ข้ามชายแดนจากภูมิภาคทิเกรย์ของประเทศเอธิโอเปียมาฝั่งตะวันออกของซูดานในเวลาเพียง 2-3 วันแรกของช่วงปีใหม่ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนมีผู้ลี้ภัยชาวเอธิโอเปียมากกว่า 56,000 คน ต้องออกจากประเทศมาซูดาน ประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้ลี้ภัยกลุ่มล่าสุดบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาเผชิญในความขัดแย้งและกลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธ พวกเขาประสบสถานการณ์ที่อันตรายมากมาย รวมถึงการถูกปล้นบ้าน ผู้ชายและเด็กผู้ชายถูกบังคับเข้าร่วมกองกำลัง ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงถูกคุกคามทางเพศ พวกเขาใช้เวลาเดินทางหลายวันและมาถึงด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง โดยมีเพียงเสื้อผ้าและสิ่งของติดตัวที่พอแบกขึ้นหลังมาได้เพียงเล็กน้อย มากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ลี้ภัยทั้งหมดมีอายุน้อยกว่า 18 ปี และร้อยละ 5 มีอายุมากกว่า 60 ปี
UNHCR และ Commission for Refugees (COR) ของซูดาน ทำงานสนับสนุนแผนการรับมือของรัฐบาลซูดานเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยจากบริเวณชายแดนที่พวกเขาเดินทางมาถึงไปยังค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองกาดาริฟของรัฐในซูดาน
กำลังการรองรับผู้ลี้ภัยในค่ายอัม รัคกูบา กำลังจะเต็มอัตรา UNHCR และองค์กรพันธมิตรจึงทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยจากจุดแรกรับบริเวณชายแดนไปยังค่ายผู้ลี้ภัย Tunaydbah ค่ายแห่งที่สองที่เปิดใหม่เพื่อมอบความปลอดภัยและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่ผู้ลี้ภัย
ค่ายแห่งใหม่นี้อยู่ห่างจากเมืองกาดาริฟราว 136 กิโลเมตร นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 มกราคม) ผู้ลี้ภัย 580 คน ถูกเคลื่อนย้ายมาที่ค่าย Tunaydbah จากจุดแรกรับวิลเลจ 8 และการเคลื่อนย้ายจากจุดแรกรับแฮมดาเยทจะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน จุดแรกรับทั้งสองแห่งมีความแออัดสูงและตั้งอยู่ใกล้ชายแดนซึ่งมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยต่อผู้ลี้ภัยสูง
เมื่อมาถึงค่าย Tunaydbah ผู้ลี้ภัยได้รับอาหารร้อน นอกจากนี้เรายังมอบเต็นท์จำนวน 1,000 หลังเพื่อเป็นที่พักพิงให้ผู้ลี้ภัยได้มากถึง 5,000 คน ซึ่งองค์กรพันธมิตรได้ทำการติดตั้งแล้ว เรากำลังติดตั้งเต็นท์เพิ่มเติมเพื่อให้พร้อมต่อการเคลื่อนย้ายที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันนี้และสัปดาห์ที่จะมาถึง
UNHCR, COR และองค์กรพันธมิตรกำลังยกระดับการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรผู้ลี้ภัยในทุกพื้นที่ ขณะนี้พันธมิตรด้านมนุษยธรรมมากกว่า 20 องค์กรทำงานอยู่ในพื้นที่อัม รัคกูบา และอีก 6 องค์กรกำลังเริ่มทำงานใน Tunaydbah เพื่อมอบความช่วยเหลือและสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ลี้ภัยและชุมชนที่มอบที่พักพิง ด้านการให้บริการที่พักอาศัย การรักษาพยาบาล อาหาร และโภชนาการ
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่รัฐบาลซูดานได้เปิดชายแดนให้กับผู้ลี้ภัยด้วยความเมตตา แต่ยังคงมีความช่วยเหลืออีกมากที่เราต้องการเพื่อสนับสนุนแผนการรับมือของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการน้ำสะอาดและสุขอนามัยในค่ายผู้ลี้ภัยและจุดแรกรับ และการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดพื้นที่คัดแยกผู้ป่วย เราต้องการงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถจัดหาที่พักพิงต่อไปได้และเพื่อพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยในค่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้
เมื่อปลาย พ.ศ. 2563 UNHCR ได้รับคำมั่นจากประเทศในภูมิภาคราว 1,200 ล้านบาท (40 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อมอบความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินในภูมิภาคทิเกรย์ของเอธิโอเปีย ซึ่งครอบคลุมเพียงร้อยละ 37 ของงบประมาณที่จำเป็นเพื่อการทำงานในประเทศซูดาน เอธิโอเปีย และสาธารณรัฐจิบูตี
มอบความช่วยเหลือฉุกเฉินตอนนี้ ร่วมบริจาค
Share on Facebook Share on Twitter