คำแถลงเนื่องในวันสากลเพื่อยุติความเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันคนข้ามเพศและคนรักสองเพศปี พ.ศ. 2567 โดยนายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
กรุงเจนีวา – วันสากลเพื่อยุติความเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันคนข้ามเพศและคนรักสองเพศ พวกเราที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ร่วมระลึกถึงการต่อสู้ดิ้นรนของผู้ที่ถูกบังคับให้หนีจากการประหัตประหาร การถูกคุกคาม และการเลือกปฏิบัติ เพียงเพราะตัวตนของพวกเขา
ผู้ขอลี้ภัย ผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ
LGBTIQ+ ต้องเผชิญกับความท้าทายและภัยคุกคามมากมายในประเทศของตน รวมไปถึงการเลือกปฏิบัติ การถูกตัดสิน ความรุนแรง ตลอดจนอุปสรรคในการเข้าถึงความช่วยเหลือ การบริการด้านต่าง ๆ โอกาสในการหาทางออก และการยืนหยัดด้วยตัวเอง
มีการเลือกปฏิบัติและการตีตรามากเกินไป และกลุ่ม LGBTIQ+ มักตกเป็นเป้าของการถูกคุกคาม ถูกกีดกัน หรือความรุนแรงที่น่าตกใจ บางคนยังถูกบังคับให้หนีเอาชีวิตรอดและต้องการความคุ้มครองจากนานาชาติ
ผู้ที่แสวงหาความปลอดภัยในพื้นที่อื่นอาจต้องเผชิญกับอันตรายอื่น ๆ ในรูปแบบของความรุนแรงจากความเกลียดชังกลุ่มคนรักร่วมเพศและกลุ่มคนข้ามเพศจากคนในประเทศที่ให้ที่พักพิง ซึ่งมักจะสร้างอุปสรรคต่อสิทธิในการขอลี้ภัยและการเข้าถึงบริการต่างๆ รวมถึงบริการในระดับชาติ ความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากความเกลียดชังชาวต่างชาติ สถานะทางกฎหมายที่ไม่แน่นอน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม การแยกตัวออกจากเครือข่ายการช่วยเหลือ และความทุกข์ทรมานทางอารมณ์อย่างเฉียบพลัน
เราได้เห็นตัวอย่างของการกีดกันต่อกลุ่มคนชายขอบและความเกลียดชังต่อกลุ่ม LGBTIQ+ ในพื้นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ต้องหมดไป
UNHCR แสดงความกังวลจากหน่วยงานอื่น ๆ ภายใต้องค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับขั้นตอนทางกฎหมายและนโยบายที่ถดถอยซึ่งบางประเทศได้นำมาใช้กับกลุ่ม LGBTIQ+ ไม่นานมานี้ การเป็นบุคคลในกลุ่ม LGBTIQ+ อาจผิดกฎหมายและบางครั้งอาจมีโทษถึงประหารชีวิต องค์กรที่ทำงานร่วมและนำโดยกลุ่ม LGBTIQ+ ต้องพบว่าตัวเองอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียดหรือผิดกฎหมาย
เราจะยังคงย้ำเตือนว่าตามที่มาตรา 1 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนกล่าวไว้ “มนุษย์ทุกคนเกิดมามีอิสระ มีศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน” ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของตน รวมถึงสิทธิในการขอลี้ภัย เพียงเพราะพวกเขาเป็นใคร หรือเพราะตัวตนของพวกเขา ความเกลียดชัง รวมถึงการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและคำพูดแสดงความเกลียดชัง ความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และการกีดกัน จะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ถูกปลุกปั่น
UNHCR ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการมอบคุ้มครองแก่ผู้ที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นและบุคคลไร้สัญชาติที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ การแสดงออกทางเพศ และลักษณะทางเพศที่หลากหลาย เราจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตร องค์กร LGBTIQ+ ในท้องถิ่น รวมถึงองค์กรที่นำโดยผู้พลัดถิ่น เพื่อช่วยคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของผู้ที่ถูกบังคับให้หลบหนี และรับประกันว่าพวกเขาจะถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ให้ที่พักพิง ซึ่งรวมถึงการออกแบบการตอบสนองและการทำงานที่ปลอดภัย และสอดคล้องกับความต้องการในด้านต่าง ๆ ไปจนถึงการจัดลำดับความสำคัญของการช่วยเหลือ และคำนึงถึงความสามารถที่หลากหลายของชาว LGBTIQ+ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาของผู้ลี้ภัย LGBTIQ+ โดยร่วมมือกับรัฐและนักเคลื่อนไหวระดับโลก นอกจากนี้เรายังจะให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่และพันธมิตรของเราต่อไปผ่านโครงการริเริ่มการพัฒนาขีดความสามารถ ร่วมกับองค์กร LGBTIQ+ อีกด้วย เราสานต่อความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญอิสระด้าน SOGI (รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ และการแสดงออก) และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหประชาชาติ ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับกลุ่ม LGBTIQ+ ที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่น
ไม่ควรมีใครถูกบังคับให้หนี แต่หากมันเกิดขึ้น จะไม่มีใครควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง รวมถึงผู้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงมากที่สุด เช่น บุคคลในกลุ่ม
LGBTIQ+ พวกเขาจะต้องรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่ง และได้รับความคุ้มครอง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม