This is a summary of what was said by UNHCR spokesperson William Spindler – to whom quoted text may be attributed – at today’s press briefing at the Palais des Nations in Geneva.
กรุงเจนีวา สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลกลาง เทศบาลต่าง ๆ และองค์กรพันธมิตรในบราซิล เพื่อบรรเทาผลกระทบร้ายแรงจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว รวมถึงฝนตกหนัก ลมแรง และความหนาวเย็น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในรัฐรีอูกรันดีดูซูล ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ได้พรากชีวิตผู้คนแล้วอย่างน้อย 107 คน และจากรายงานพบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 1.7 ล้านคน โดยมีสูญหายอีก 134 คน
ผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมไปถึงผู้ลี้ภัยราว 41,000 คน และอีกหลายกลุ่มที่ต้องการการคุ้มครองระหว่างประเทศ รวมถึงชาวเวเนซุเอลาและชาวเฮติจำนวนมากที่พักพิงอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบางส่วนสามารถเข้าถึงเพื่อมอบความช่วยเหลือได้โดยทางเรือเท่านั้น
ในการประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น UNHCR กำลังส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น ผ้าห่ม เสื่อนอน และประเมินความต้องการของประชากรที่ได้รับผลกระทบ UNHCR ยังให้การสนับสนุนทางเทคนิคเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ผู้ลี้ภัยและผู้อพยพสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคำแนะนำในการมอบความคุ้มครองและความเสี่ยงในสถานที่ที่พวกเขาพักพิงอยู่ในภาษาของตนเอง
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า UNHCR จะร่วมสนับสนุนการออกเอกสารในกรณีที่เอกสารสูญหายหรือได้รับความเสียหาย เพื่อรับประกันว่าผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัยยังสามารถเข้าถึงสิทธิและบริการสาธารณะต่าง ๆ นอกจากนี้เรายังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ทีมท้องถิ่นของภาคีภาคประชาสังคมเพื่อให้การสนับสนุนด้านจิตใจและให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเปราะบางที่สุด รวมไปถึงในชุมชนที่ให้ที่พักพิง
สิ่งของบรรเทาทุกข์เพิ่มเติม เช่น ที่พักพิงฉุกเฉิน อุปกรณ์ประกอบอาหาร ผ้าห่ม ตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ และชุดสุขอนามัย กำลังถูกลำเลียงจากคลังสินค้าระดับภูมิภาคของ UNHCR ไปยังประเทศบราซิล และจากคลังของหน่วยงานทางตอนเหนือของประเทศ
จากข้อมูลของรัฐบาล รัฐรีอูกรันดีดูซูลให้ที่พักพิงแก่ชาวเวเนซุเอลามากกว่า 21,000 คน ซึ่งย้ายมาจากรัฐโรไรมาบริเวณชายแดนทางตอนเหนือของประเทศติดกับเวเนซุเอลาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2561
เหตุการณ์จากสภาพอากาศสุดขั้วในบราซิลเกิดขึ้นบ่อยครั้งและยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงภัยแล้งในภูมิภาคแอมะซอน และฝนตกหนักในรัฐบาเอียและรัฐเอเคอร์ ซึ่ง UNHCR ให้ความช่วยเหลือทั้งหมด
UNHCR ประมาณการว่าต้องการงบประมาณราว 3.21 ล้านดอลลาร์ (หรือราว 114 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนความต้องการเร่งด่วนที่สุด รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยตรงแก่บุคคลที่ได้รับผลกระทบ และการจัดหาสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จำเป็น พื้นที่กว่าร้อยละ 85 ของรีอูกรันดีดูซูลได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยประชาชนราว 68,000 คน ถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงที่ได้รับการปรับปรุง ขณะที่มากกว่า 327,000 คน ต้องออกจากบ้าน
นักอุตุนิยมวิทยาเตือนถึงฝนตกหนักและลมแรงทั่วทั้งรัฐจนถึงสุดสัปดาห์นี้
เหตุการณ์สภาพภูมิอากาศที่รุนแรงส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยและผู้ที่กำลังต้องการความคุ้มครองระหว่างประเทศ งบประมาณที่ได้รับเพื่อรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองกับความต้องการของผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่นหรือชุมชนที่ให้ที่พักพิง หากไม่มีความช่วยเหลือในการเตรียมพร้อม รับมือ และฟื้นตัวจากเหตุการณ์ที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พวกเขาต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อการพลัดถิ่นเพิ่มมากขึ้น
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 UNHCR ได้เปิดตัวกองทุน Climate Resilience Fund กองทุนแรกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับผู้ลี้ภัย ชุมชนผู้พลัดถิ่น และชุมชนที่ให้ที่พักพิงแก่พวกเขาต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Share on Facebook Share on Twitter